7 ขั้นตอนการเลือกซื้อโซฟา จะเลือกซื้ออย่างไรดีให้คุณได้โซฟาที่ถูกใจ และใช้ประโยชน์ได้สูงสุดจริง ๆ
ขั้นตอนที่ 1 ประโยชน์ใช้สอย
ขึ้นอยู่กับว่า นำโซฟาไปตั้งที่ส่วนใดของห้องไหนในบ้าน ซึ่งจะเกี่ยวเนื่องกับการใช้งาน คือเอาไว้ต้อนรับแขก โซฟาควรจะดูสง่างามวัสดุควรทำความสะอาดง่าย หรือเอาไว้นอนเอกเขนกในห้องนั่งเล่น หรือที่มุมอ่านหนังสือ ลักษณะของโซฟาก็จะต่างกันออกไป คืออาจจะนุ่มสบายมีรูปแบบ สีสัน มากขึ้น
ขั้นตอนที่ 2 ขนาด
ต้องดูว่าพื้นที่ที่จะตั้งโซฟามีมากขนาดไหน ถ้าตั้งโซฟาแล้วจะต้องมีพื้นที่สำหรับการใช้สอยอื่น ๆ ด้วย
รวมถึงการใช้งานว่าต้องการเผื่อไว้สำหรับกี่คนนั่ง 2 หรือ 3 ที่นั่ง หรือต้องการขนาดใหญ่พอที่จะใช้นอนยืดขาได้เต็มที่ด้วย
ขั้นตอนที่ 3 สีสัน และความสวยงาม
ทั้งหมดนี้จะมีส่วนในการสร้างบรรยากาศและอารมณ์ให้กับห้องนั้น ๆ ควรเลือกให้อยู่ในสไตล์และโทนสีเดียวกับห้อง และเฟอร์นิเจอร์ตัวอื่น ๆ ควรกำหนดให้โซฟามีความโดดเด่นเป็นจุดนำสายตาในห้องนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นห้องรับแขก
ขั้นตอนที่ 4 ลักษณะโครงสร้างและวัสดุ
โซฟาที่ดี จะถูกออกแบบมาให้รองรับสรีระของร่างกายได้อย่างถูกสุขลักษณะ นั่งแล้วรู้สึกสบาย ไม่ปวดเมื่อยวัสดุที่ใช้ทั้งส่วนของการรองนั่งและผนังพิงหลัง ควรมีความนุ่มที่เพียงพอ สามารถทำให้นั่งอยู่ได้นาน ๆ
ขั้นตอนที่ 5 ความคงทน และการดูแลรักษา
โครงสร้างที่เป็นไม้เนื้อแข็งกับเหล็ก ย่อมให้ความแข็งแรงที่ต่างกัน โซฟาที่ทำจากหนัง ซึ่งอาจเป็นหนังแท้หรือหนังเทียมกับผ้าบุประเภทต่าง ๆ ล้วนมีความคงทนที่ต่างกัน และมีความยากง่ายในการดูแลรักษาความสะอาดที่ต่างกัน
โซฟาที่สามารถถอดเปลี่ยนผ้าบุออกได้ จะทำความสะอาดได้ง่ายและยังเปลี่ยนลายผ้าได้ใหม่ตามต้องการอีกด้วย บ้านที่มีเด็กควรคำนึงถึงข้อนี้ให้มาก
ขั้นตอนที่ 6 ราคา
ให้พิจารณาว่ามีความเหมาะสมกับคุณสมบัติต่าง ๆ ข้างต้นหรือไม่ เพราะโซฟาที่มีขนาดใหญ่ นั่งสบาย โครงสร้างแข็งแรง วัสดุดีดูสวยงาม ย่อมมีราคาสูงเป็นธรรมดา
ขั้นตอนที่ 7 คุณสมบัติอื่น ๆ
โซฟาบางตัวจะมีคุณสมบัติพิเศษ เช่น ปรับระดับความเอนของ พนักพิงเอนได้ ดึงที่วางเท้าออกมาได้ มีช่องเก็บของอยู่ใต้เบาะรองนั่ง เป็นต้น จะเป็นความพึงพอใจส่วนบุคคล
และขึ้นอยู่กับว่า ได้ใช้ประโยชน์จากคุณสมบัตินั้น ๆ มากน้อยเพียงไร